OKJA (2017) อ่านว่า โอค-จา ไม่ใช่ โอ-เค-จ้า หนังโดยผู้กำกับชาวเกาหลีที่มีชื่อเสียงในฮอลลีวูด Bong Joon Ho ที่เคยกำกับเรื่อง Snowpiercer มาแล้ว okja ได้คะแนนใน IMDb 7.6 และ Rotten Tomatoes 85% ถือว่าเสียงตอบรับค่อนข้างดีมาก แต่เสียดายที่ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ฉายทาง Netflix เท่านั้น
เป็นเรื่องราวของมิแรนด้า CEO บริษัท มิรานโด้ ที่ได้ออกไอเดียสร้างซุปเปอร์หมู (เหมือนฮิปโปมากกว่า ฮ่าๆ ) ที่เธอโฆษณาว่าเป็นหมูที่ไม่ได้ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรมใดๆ
โดยมีซุปเปอร์หมูทั้งหมด 26 ตัวที่ถูกส่งไปให้เกษตรกรท้องถิ่นแต่ละประเทศทำการเลี้ยงดูเป็นเวลา 10 ปี หลังจากนั้นทั้งหมดจะถูกส่งกลับเข้ามายังบริษัทเพื่อคัดเลือกซุปเปอร์หมูที่สมบูรณ์ที่สุด โดยที่ชาวโลกไม่รู้เลยว่า เหล่าซุปเปอร์หมูเหล่านี้ถูกทารุณและทรมาณอย่างโหดร้าย
มิจาและปู่ของเธอเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับเลือกให้เลี้ยงซุปเปอร์หมู เธออยู่กับมันตั้งแต่เด็กอย่างมีความสุขในทุกวันท่ามกลางธรรมชาติ จนวันนึงเจ้าโอคจ้าถูกจับกลับไปเพื่อไปแปรรูปเป็นอาหารที่คาดว่าเนื้อของมันนั้นอร่อยที่สุด มิจาจึงต้องตามเอาตัวซุปเปอร์หมูเพื่อนรักกลับคืนมาให้ได้ โดยมีกลุ่มองค์กรลับที่คอยพิทักษ์การทารุณกรรมสัตว์คอยช่วยเหลือ
บทหนังทำออกมาได้ดี ทำให้แตกต่างจากหนังคนกับสัตว์ที่ผูกผันกันแบบทั่วไปๆ ไม่ได้ดูโลกสวยไปทุกอย่าง ดูสนุก เพลิน แอบมีดราม่าเล็กๆ ซีจีอย่างเนียน เจ้าโอคจาดูมีชีวิตจริงๆ ไม่รู้สึกหลอกตาอะไรเลย
มี Jake Gyllenhaal แสดงด้วย ตอนแรกก็ว่าหน้าคุ้นๆ ที่ไหนได้ใช่จริงๆ เพราะแสดงเป็นดอกเตอร์จอมปลอมผู้รักสัตว์ได้สติเฟื่องมากๆ อีกคนคือ Lily Collins หนึ่งในกลุ่มองค์กรลับพิทักษ์สัตว์ แสดงเป็นสาวเฟี้ยวๆ หน่อย แม้บทจะไม่ได้เด่นอะไรมาก
หนังเรื่องนี้ทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า “นักธุรกิจ” จะทำยังไงก็ได้ให้ได้มาซึ่งเงินมหาศาล เพราะมันคือ ธุรกิจ โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดเลย บางทีโลกความเป็นจริงก็เป็นแบบนี้แหละ
มาดูความเห็นของชาวเน็ตต่อเรื่องนี้กัน
“หนังมันมีมุมมองที่ไม่ขาวไม่ดำ และก็ไม่ได้เป็นหนังที่ทำเพื่อให้คนดูสงสารสัตว์อย่างเดียว กลับกันหนังทำให้คนตระหนักรู้ถึงเรื่องพวกนี้ ผมว่าคนดูหลายคนก็เป็นอย่างตอนจบเอนด์เครดิต คือค่อยๆ เข้าใจและแก้ไขมันไปเท่าที่ตัวเองทำได้ (กลุ่มองค์กรนั่นก็ทำหน้าที่เปิดโปงเรื่องพวกนี้ต่อไป ไมไ่ด้จบแค่ Okja )”
“ผมนึกว่า Hippopotamus”
“อยากให้ทำต่ออีก สนุกมากเลย หลังจบ end credit มีฉากทำให้อยากดูต่ออีก”
“จบเอนเครดิตมีไว้เพื่อสร้างความหวังว่าที่ทำมาไม่สูญเปล่า ผมว่ามันจบสวยลงตัวแล้วครับ”
“หนังสนุกดีครับ ผกกและทีมงานหลายคนเป็นชาวเกาหลีแต่ทำหนังได้มาตรฐานอินเตอร์มาก ช่วงนี้พูดเรื่องแมงมุมกันเยอะ เปลี่ยนมาคุยเรื่องหมูบ้างก็ดีครับ”
“ภาพสวย Okja น่ารักดีค่ะ”
“จิ้มดูแบบไม่คิดมาก สรุปว่านอกจากเนื้อหาที่ละมุนหัวใจจ ก็ไม่ผิดหวังกับอารมณ์เสียดสีของผกก.คนนี้เลย”
“ผมว่าธรรมดาครับ ค่อนไปทางผิดหวังด้วยเห็นได้เลือกฉายในงานคานส์นึกว่าจะทำได้ลึกซึ้งกินใจ อารมณ์ไม่มาเลย ผมอินกับหนังแค่จังหวะเดียว จังหวะที่พ่อกับแม่หมูตัวหนึ่งดันลูกออกจากกรงให้ Okja ช่วยออกไปนอกนั้นจังหวะขาดๆเกินๆ พยายามตลกก็ไม่ตลก”
“หนังมันไม่ได้ทำให้ตลก หนังมันเสียดสีด้วยการสร้างให้ฝั่งทุนนิยมดูโอเว่อร์แอ็กติ้งสร้างภาพครับ (เล่นกันล้นๆ จนเห็นชัดอยู่แล้ว รวมถึงเสื้อผ้าหน้าผมที่แฟชั่นนิสต์สุดๆ ขนาดนั้น) ดูยังไงให้เป็นหนังตลกได้นี่แปลกมากๆ นะครับ อย่างตัวละครพิธีกรทีวีนั่นมันก็เป็นไปตามบทที่เราเห็นกันในชีวิตจริงอยู่แล้ว ที่เวลาทำรายการออกทีวีก็ต้องสร้างภาพดี๊ดีไว้ตลอด แต่เบื้องหลังกลับไม่ใช่แบบนั้น เห็นบางคนบอกบทนี้ตั้งใจให้ตลก แต่ผมกลับมองว่ามันชี้ชัดให้คนดูเข้าใจเลยว่าพวกพิธีกรทีวีพวกนี้จริงๆ เป็นไงมากกว่า ดูไปไม่ได้รู้สึกว่ามันตั้งใจตลก แต่ตั้งใจให้เห็นความน่าไหว้หลังหลอกที่น่าสะอิดสะเอียนมากกว่าครับ”
“จบได้ซึ้งมาก ร้องไห้เลย เป็นหนังตะวันตกที่ให้ความรู้สึกแบบหนังตะวันออก ทั้งดนตรีและการการแสดงดีมากค่ะ “
“ดูไปก็คิดว่าน้องนางเอกคือ จีจ้า และนี่คือ ต้มยำกุ้ง ภาค 3”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น